หลังจากภาคแรกสร้างเสียงหัวเราะและความมันจนทั่วโลก The Angry Birds กลับมาอีกครั้งในภาคต่อที่ใหญ่กว่า สดใสกว่า และเต็มไปด้วยความฮามากขึ้นใน The Angry Birds Movie 2 (2019) — การร่วมมือที่ไม่มีใครคาดคิดระหว่างนกและหมู เพื่อหยุดภัยครั้งใหม่ที่มาจากขั้วโลกเหนือ … หรือพูดง่ายๆ นี่คือภาคที่ “ศัตรูต้องกลายเป็นพันธมิตร” อย่างไม่เต็มใจที่สุดในจักรวาลขนปีกสีสดใสนี้
เรื่องราวเปิดหลังเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อ Red (เสียงพากย์ Jason Sudeikis) กลายเป็นฮีโร่ของเกาะนก ทุกคนยกย่องเขาเป็นตำนานแห่งการปกป้องไข่ แต่ความสงบก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อมีภัยปริศนาใหม่จาก Eagle Island เกาะน้ำแข็งที่นำโดย Zeta (เสียงพากย์ Leslie Jones) อินทรีสาวหัวร้อนผู้เบื่อหนาวและอยากยึดเกาะเขตร้อนแทน!
ครั้งนี้ Red ต้องจับมือกับคู่ปรับเก่า Leonard หมูเขียวเจ้าแผนการ เพื่อรวมทีมเฉพาะกิจ “Operation Swine and Bird” ที่ประกอบด้วย Chuck, Bomb, Silver (น้องสาวของ Chuck เสียงโดย Rachel Bloom) และ Courtney หมูสาวผู้มีอารมณ์ขันไม่แพ้ใคร … ทั้งหมดต้องบุกเข้าไปในฐานลับของ Zeta และหาทางหยุดอาวุธน้ำแข็งยักษ์ก่อนที่มันจะเปลี่ยนเกาะทั้งสองให้กลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง
เสน่ห์ของภาค 2 คือ “จังหวะตลกและพลังทีม” ที่ดีกว่าภาคแรก มุกคอมเมดี้มาไวไปไวแต่คมและเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคู่ Red กับ Silver ที่กลายเป็นจุดอบอุ่นของเรื่อง หนังยังแอบจิกกัดความสัมพันธ์ยุคใหม่แบบเบาๆ เช่นการไม่กล้ายอมรับว่าตัวเองต้องการใคร หรือการที่ฮีโร่ต้องเรียนรู้จะ “แบ่งปันความสำเร็จ” ให้คนอื่น
ในแง่เทคนิค แอนิเมชันถูกยกระดับขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งแสง เงา และฉากแอ็กชัน โดยเฉพาะฉากแทรกซึมในฐานทัพ Eagle Island ที่ทั้งระทึกและฮาพร้อมกัน งานเพลงก็ยังจัดเต็มเหมือนเดิม เพลงประกอบแนว pop – disco ทำให้ผู้ชมยิ้มได้แทบทุกนาที
แม้โครงเรื่องหลักจะยังคงเรียบง่ายและเป็นสูตรสำเร็จสำหรับหนังแอนิเมชันครอบครัว แต่พลังของทีมงานและการใส่ใจในจังหวะตลกทำให้ The Angry Birds 2 สนุกกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด — นี่คือภาคต่อที่ไม่ใช่แค่ “ขายของเล่น” แต่เต็มไปด้วยใจและเสียงหัวเราะจริงๆ
คะแนน IMDb: 6.4 / 10 (จากผู้ใช้กว่า 48,000 คน)
คะแนนผู้เขียน: 7.5 / 10 – สำหรับความบันเทิงเต็มพิกัดและการพัฒนาเรื่องราวที่โตขึ้นแต่ยังรักษาความสนุกแบบเด็กได้ครบ
